แทงบอลออนไลน์ เว็บบอลสด แทงบอลผ่านไลน์ เว็บแทงบอลที่ดีที่สุด เว็บเล่นบอลออนไลน์ สมัครเว็บบอลออนไลน์ พนันฟุตบอลออนไลน์ นอกจาก 1 กุนซือใหม่และ 2 สมาชิกใหม่ระดับซุปตาร์อย่าง เมสซี่ & บุสเก็ตส์ แล้ว นี่คือเพื่อนใหม่บางรายที่อยู่มาก่อนใน DRV PNK สเตเดี้ยม
ดีอันเดร เยดลิน เซนเตอร์แบ็กทีมชาติสหรัฐอเมริกา วัย 30 เคยถูกคว้าไปอยู่ สเปอร์ส ก่อนไปสร้างชื่อกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยาวนาน 4 ปี กระทั่งย้ายจาก กาลาตาซาราย กลับบ้านเกิดในซีซั่นที่แล้ว 2022
เซอร์เก คริฟท์ซอฟ กองหลังยูเครนตัวเก๋าวัย 32 อยู่กับ ชัคตาร์ โดเนทส์ค ยาวนานเกินสิบปี ก่อนย้ายมา อินเตอร์ ไมอามี่ เมื่อต้นปี
ฟรังโก เนกรี วิงแบ็กอาร์เจนติน่า อยู่กับหลายทีมในบ้านเกิด ก่อนย้ายจาก โกดอย ครูซ มาที่นี่ ปีนี้
โรเบิร์ต เทย์เลอร์ โตที่อังกฤษ แต่เป็นตัวทีมชาติฟินแลนด์ และมีเส้นทางพเนจรใช่ย่อย อยู่มาแล้วเป็นสิบทีมในตอนนี้ที่อายุ 28 โดยถูก อินเตอร์ ไมอามี่ คว้ามาจาก เอสเค บรานน์ ในนอร์เวย์
เลโอนาร์โด้ คัมปาย่า หอกดาวรุ่งเอกวาดอร์วัย 22 เคยถูกดึงไป วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส แต่ไม่เคยได้เล่นทีมชุดใหญ่ ก่อน อินเตอร์ ไมอามี่ ยืมใช้ ยิงไป 12 ประตูซีซั่นก่อน ทำให้ถูกซื้อขาดในที่สุด
โจเซฟ มาร์ติเนซ
หัวหอกคนดังของ เวเนซุเอล่า ที่เล่นทีมชาติไปแล้ว 63 นัด สร้างชื่อกับ แอตแลนต้า ยูไนเต็ด อยู่นาน 2017-2022 (111 ประตูใน 6 ปี) ก่อนย้ายมาที่นี่ และยิงไปแล้ว 6 ลูก นำดาวซัลโวของทีมอยู่
อาจน่าเสียดายอยู่เล็กๆ ที่ เมสซี่ & บุสเก็ตส์ มาไม่ทัน กอนซาโล่ อิกวาอิน ตำนานดาวยิงอาร์เจนไตน์ (และ เรอัล มาดริด) ซึ่งตัดใจแขวนสตั๊ดไปเสียก่อนในวัย 35 ภายหลังจบซีซั่นที่แล้ว 2022
เพียงแต่ถ้าตามกระแสข่าว ก็น่าลุ้นอยู่เหมือนกันว่าจะยังมีดาวดังฟรีเอเยนต์ที่ถูกคว้ามายัง อินเตอร์ ไมอามี่ เพิ่มอีก อาทิ เซร์คิโอ รามอส, จอร์ดี้ อัลบา, เอแด็น อาซาร์ หรือกระทั่ง อันเดรส อิเนียสต้า
อย่างที่ว่า อินเตอร์ ไมอามี่ มัวแต่เสียเวลากับ ฟิล เนวิลล์ อย่างไม่เข้าท่า จนกลายเป็นตลกร้ายของทั้ง มาร์ติโน่ & บุสเก็ตส์ & เมสซี่ ว่าจู่ๆ ก็ได้มายังทีมที่เป็น “บ๊วย” ของ MLS เสียเฉยๆ
ซีซั่น 2023 นี้ที่ดำเนินมาแล้วเกินครึ่งทาง อันที่จริง “เดอะ แบล็คพิงค์” (ที่โรมรัน MLS เป็นปีที่ 4) ก็เริ่มต้นได้สวยเลย ชนะ ซีเอฟ มอนทรีอัล 2-0 ต่อด้วยชนะ ฟิลาเดลเฟีย ยูเนียน 2-0
แต่หลังจากนั้น เหมือนกินยาผิดสำแดง แพ้รวด 6 นัดติดต่อกันแบบยิงใครไม่ได้ถึง 5 เกม
ช่วง เม.ย. – พ.ค. ฮึดขึ้นชนะ 3 เกมรวด แต่นั่นก็กลายเป็นเสียงเฮสุดท้ายจนวันนี้ ที่แพ้ถึง 8 เกม และเสมอ 3 นัด
ทั้งที่ผลงานแย่ขนาดนี้ หลุดลงมารั้งบ๊วยของโซนตะวันออก MLS Eastern Conference (เช่นเดียวกับเป็นบ๊วยในตารางรวม Overall table) แบบนี้ แต่เสี่ยเบ็คส์เพิ่งจะทำใจสั่งเด้ง ฟิล เนวิลล์ พ้นเก้าอี้ได้เมื่อ 1 มิ.ย. เท่านั้น และดันโค้ชทีมเยาวชน ฮาเวียร์ โมราเลส ขึ้นรักษาการคุมทีม
และกว่าที่จะได้ตัว เคราร์โด้ มาร์ติโน่ มาเริ่มทำหน้าที่ในฐานะกุนซือถาวรคนใหม่ ก็เพิ่งเมื่อ 10 ก.ค. ที่ผ่านมานี่เอง
อย่างไรก็ตาม โชคยังเป็นของ อินเตอร์ ไมอามี่ (และคงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงนิ่งนอนใจกับ ฟิล เนวิลล์ แบบไม่ทุกข์ร้อน) ว่าที่นี่ MLS “ไม่มีตกชั้น” ไม่มีการคัดเอาบ๊วยหรือรองบ๊วยหรือใครทั้งสิ้น ตกไปอยู่ดิวิชั่นรอง การเพิ่มหรือลดจำนวนทีมใน MLS จำกัดอยู่ที่เพียงการซื้อแฟรนไชส์และเข้าคิวใช้สิทธิ์เท่านั้น
ต่อให้จะแพ้รวดอีกตลอด 12 เกมสุดท้ายที่ยังเหลือ โดนยิงนัดละ 10 ลูก และดิ้นไม่พ้นการจบอันดับ 15 โซนตะวันออก ก็ไม่ได้มีส่งผลเสียอะไรทั้งสิ้น — ซีซั่นหน้า 2024 อินเตอร์ ไมอามี่ ก็จะยังลงเล่นใน MLS อยู่ต่อไปตามปกติ
ข้อเสียอย่างเดียวของการจบอันดับต่ำ คือการไม่ได้ไปต่อในรอบชิงแชมป์ MLS Cup Playoffs หรือพลาดโควตา CONCACAF Champions Cup เท่านั้นเอง
(สำหรับนาทีนี้ เอฟซี ซินซินเนติ นำโด่งเป็นจ่าฝูงโซนตะวันออก ชนิดไม่น่าพลาดจบที่ 1 แต่เมื่อไปต่อรอบชิงแชมป์แล้ว ก็ค่อยว่ากันอีกที)
ปิดตัว เมสซี่ วันก่อนว่า แมตช์แรกที่ยอดแข้งวัย 36 มีโอกาสจะได้ประเดิมสนามกับพวกเขา คือเกม ลีกส์ คัพ รอบแบ่งกลุ่ม ที่จะพบกับ ครูซ อาซูล ของเม็กซิโก ศุกร์นี้ 21 ก.ค. หรือนัดถัดไปในถ้วยเดียวกันนี้กับ แอตแลนต้า ยูไนเต็ด 25 ก.ค.
สำหรับ ลีกส์ คัพ (Leagues Cup) คือถ้วยใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นแข่งขันกันมาเป็นปีที่ 3 เท่านั้น เป็นการจับมือกันระหว่าง MLS กับสหพันธ์ฟุตบอลเม็กซิโก จัดเป็นบอลถ้วยในลักษณะคล้ายๆ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ขึ้น ระหว่างทีม MLS กับ Liga MX เม็กซิโก สองชาติเท่านั้น
ลีกส์ คัพ 2023 มีทีมเข้าร่วมมากถึง 47 ราย (29 สหรัฐฯ 18 เม็กซิโก) แบ่งออกเป็น 15 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม คัดเอา 2 อันดับแรกเข้ารอบน็อกเอาต์ 32 ทีม (แอลเอ เอฟซี กับ ปาชูก้า ได้บายเข้ารอบ 32 ทีม) จากนั้นก็คัดออกคัดเข้ากันไปตามสเต็ปฟุตบอลน็อกเอาต์สากล
ทีมแชมป์ นอกจากจะได้เงินรางวัลก้อนย่อมๆ แล้ว ก็จะได้ตีตั๋วเข้าเล่นศึกชิงแชมป์สโมสรคอนคาเคฟ CONCACAF Champions Cup โดยได้ไปทั้งแชมป์, รองแชมป์ และอันดับ 3
ในส่วนของ อินเตอร์ ไมอามี่ อยู่ร่วมกลุ่มกับ ครูซ อาซูล และ แอตแลนต้า ยูไนเต็ด อย่างที่ว่าไป ซึ่งจะเล่นในระบบเจอกันนัดเดียว ไม่มีเหย้าเยือนเหมือนถ้วยอื่น
การมาของ ลีกส์ คัพ ทำให้ MLS สั่งเบรคเว้นช่วงกลางซีซั่นเพื่อให้ทุกทีมไปลงเล่นรายการที่ว่านี้ เกือบๆ 1 เดือนเต็ม เช่นในราย อินเตอร์ ไมอามี่ ลงเล่นนัดล่าสุดแพ้ เซนต์ หลุยส์ ซิตี้ เอสซี 0-3 เมื่อ 15 ก.ค. และจะกลับมาเตะอีกทีพบ ชาร์ล็อตต์ เอฟซี 20 ส.ค. เลย
นอกจากนั้น อินเตอร์ ไมอามี่ ยังอยู่ในรายการ ยูเอส โอเพ่น คัพ (U.S. Open Cup) ซึ่งเป็นบอลน็อกเอาต์เก่าแก่ในประเทศ ลักษณะเดียวกับ เอฟเอ คัพ โดยที่ทีมของเสี่ยเบ็คส์ไปไกลทีเดียวในปีนี้ เข้าถึงรอบตัดเชือกแล้ว ซึ่งจะพบกับ เอฟซี ซินซินเนติ 23 ส.ค.
ถ้ายังผ่านได้ จะนับเป็นหนแรกสุดที่ อินเตอร์ ไมอามี่ ได้เล่นบอลถ้วยนัดชิง โดยจะชิงแชมป์กับผู้ชนะของคู่ระหว่าง ฮูสตัน ไดนาโม กับ รีล ซอลท์ เลค
ที่นี่ไม่มี “เจ้าที่เจ้าทาง”
แง่หนึ่งคือ MLS ไม่มีการคัดทิ้งทีมตกชั้น และแง่หนึ่งก็คือ หากตั้งหลักปักฐานได้ดี หาจุดเปลี่ยนฟอร์มการเล่นที่ดีเจอ อินเตอร์ ไมอามี่ ก็ยังมีโอกาสประสบความสำเร็จในอนาคตได้
นั่นเพราะที่ลีกแห่งนี้ไม่ได้มี “เจ้าที่เจ้าทาง” ผู้ที่จะครองความยิ่งใหญ่เอาไว้แต่เพียงผู้เดียว เป็นลีกที่หมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกันเชยชมความสำเร็จอย่างแท้จริง และยังพบว่า ในตลอดระยะ 1 ทศวรรษหลัง ไม่มีสโมสรใดทั้งสิ้นที่สามารถป้องกันแชมป์ MLS Cup ได้ — ล่าสุดคือ แอลเอ แกแล็กซี่ ช่วงปี 2011 และ 2012 ยุค เดวิด เบ็คแฮม ยังโลดแล่นพร้อมเพื่อนอย่าง ร็อบบี้ คีน & แลนดอน โดโนแวน โน่นเลย (เธียร์รี่ อองรี ก็ยังอยู่ที่ นิวยอร์ก เร้ดบูลล์ส)
2013 สปอร์ติ้ง แคนซัส ซิตี้ (สมัย 2)
2014 แอลเอ แกแล็กซี่ (5)
2015 พอร์ทแลนด์ ทิมเบอร์ส (1)
2016 ซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์ส (1)
2017 โตรอนโต้ เอฟซี (1)
2018 แอตแลนต้า ยูไนเต็ด (1)
2019 ซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์ส (2)
2020 โคลัมบัส ครูว์ (2)
2021 นิวยอร์ก ซิตี้ (1)
2022 แอลเอ เอฟซี (1)
ภาพที่เกิดขึ้นเหล่านี้ หมายความว่า ทุกทีมมีสิทธิลุ้นความสำเร็จด้วยกันทั้งหมด อยู่ที่ว่าจะทำได้ดีขนาดไหนในซีซั่นนั้นๆ
สำหรับปีนี้ เมสซี่ ที่มาเอาในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของซีซั่น มีหน้าที่แค่ทำความรู้จักกับ อเมริกัน ซอคเกอร์ ให้มากที่สุด และลุ้นความสำเร็จเอาในเกมฉาบฉวยอย่างบอลถ้วย
แต่ปีหน้าและถัดไป เมื่อได้เริ่มกระชากลากเลื้อยและล่าตาข่ายตั้งแต่แรก (พร้อมกับมีแข้งดาวดังถูกเสริมเพิ่มเติมอีก) ก็ไม่แน่เหมือนกันว่า อินเตอร์ ไมอามี่ ของ เมสซี่ อาจได้เป็นอีกทีมที่ลุ้นแทรกตัวเข้าสู่ทำเนียบแชมป์ MLS
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิ้มกริ่มในฐานะผู้นำเทรนด์ เปิดโลก โปรลีก ซาอุฯ ก่อนดาวเตะหลายรายจะตามมาในซัมเมอร์นี้ พร้อมยกในอีก 1 ปีข้างหน้า จะกลายเป็นลีกที่ดีกว่า เอเรดิวิซี่ เนเธอร์แลนด์ หรือ ซูเปอร์ลีก ตุรกี เสียอีก
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอดดาวยิงซูเปอร์สตาร์ของ อัล-นาสเซอร์ เผยชัดว่า อนาคตจะไม่กลับไปเล่นในลีกยุโรปอีกครั้งแล้ว ด้วยอายุอานามที่เข้าใกล้หลักสี่แบบรอไฟแดงแจ้งวัฒนะ พร้อมยืนยันว่าคิดถูกแล้วที่มายัง โปรลีก ซาอุดีอาระเบีย ที่ตนยกให้เป็นลีกที่ดีกว่า MLS สหรัฐอเมริกา และในอีก 1 ปีข้างหน้า จะกลายเป็นลีกที่ดีกว่า เอเรดิวิซี่ เนเธอร์แลนด์ หรือ ซูเปอร์ลีก ตุรกี ด้วย
โรนัลโด้ เป็นคนเปิดตลาด โปรลีก ซาอุฯ ด้วยการย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเข้าร่วมทีม อัล-นาสเซอร์ ตั้งแต่ต้นปี ก่อนที่ซัมเมอร์นี้บรรดาทีมใน โปรลีก จะฟาดงวงฟาดงาเป็นการใหญ่ ได้แข้งดาวดังของลีกยุโรปไปเสริมทัพแล้วนับสิบราย
“ผมจะไม่กลับไปสู่ฟุตบอลยุโรปอีกแล้ว ประตูปิดลงแล้วอย่างสิ้นเชิง” กัปตันทีมชาติโปรตุเกส เผย “ผมอายุ 38 แล้ว และฟุตบอลยุโรปก็มีคุณภาพสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ พรีเมียร์ลีก พวกเขาทิ้งระยะจากลีกอื่นๆ อยู่พอสมควร”
“การตัดสินใจของผมในการมาร่วมทีมซาอุ มีส่วนสำคัญ 100% ในการนำนักเตะระดับท็อปมาที่นี่ นี่คือข้อเท็จจริง”
“ตอนที่ผมย้ายไป ยูเวนตุส เซเรีย อา กำลังแห้งแล้ง แต่มันฟื้นขึ้นเยอะมากหลังจากผมเซ็นสัญญา ไม่ว่า คริสเตียโน่ ไปที่ไหน ความสนใจต่อที่นั่นก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเสมอ”
ไม่กี่วันก่อน ลิโอเนล เมสซี่ เข้าเปิดตัวกับ อินเตอร์ ไมอามี่ และ โรนัลโด้ กล่าวว่า “ลีกซาอุดีกว่าเอ็มแอลเอส พวกเขาวิจารณ์ผมสำหรับการเลือกมายังลีกซาอุ แต่ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นบ้างล่ะ? ผมเป็นคนเปิดประตูให้กับลีกซาอุ และตอนนี้นักเตะทุกคนต่างก็มุ่งหน้ามาที่นี่”
“ในอีกหนึ่งปีข้างหน้า นักเตะระดับท็อปจะเข้ามายังซาอุ มากขึ้นและมากขึ้น ในหนึ่งปี ลีกซาอุจะก้าวข้ามลีกตุรกี และลีกดัตช์”
“นักเตะหลายรายที่มาที่นี่ ไม่ได้สูงวัยแบบที่ประธานยูฟ่าบอก ตัวอย่างเช่น โชต้า กับ รูเบน เนเวส ที่อายุยังน้อย”
บาร์เซโลน่า ประกาศคว้าตัว วิตอร์ โรเก้ กองหน้าดาวรุ่งชาวบราซิลวัย 18 ปี จากอัตเลติโก้ พาราเนนเซ่ โดยจะย้ายมาร่วมทีมอย่างเป็นทางการในช่วงซัมเมอร์ปี 2024 และเซ็นสัญญายาวจนถึงปี 2031
เส้นทางสู่การเป็นนักเตะอาชีพของโรเก้ เริ่มตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จากการเข้าไปอยู่ในอคาเดมี่ของอเมริกา มิไนโร่ จากนั้นในปี 2019 ไปอยู่กับทีมเยาวชนของครูไซโร่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2021
ปี 2022 โรเก้ ย้ายไปค้าแข้งกับอัตเลติโก้ พาราเนนเซ่ และในปีต่อมา เขาติดทีม “เซเลเซา” คว้าแชมป์โคปา อเมริกา รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี พร้อมคว้ารางวัลดาวซัลโวประจำการแข่งขัน ด้วยผลงาน 6 ประตู
ส่วนผลงานกับพาราเนนเซ่ ในฤดูกาลปัจจุบัน โรเก้ยิงไปแล้ว 16 ประตู จากการลงเล่น 32 นัด รวมทุกรายการ ยังมีอีก 5 เรื่องที่หลายคนอาจยังไม่รู้ ของว่าที่ดาวยิงคนใหม่ “เจ้าบุญทุ่ม” รายนี้
แข้งคนแรกนับตั้งแต่ปี 2019 ที่ย้ายจากลีกแซมบ้า
นักเตะคนล่าสุดจากลีกบราซิล ที่ได้ย้ายมาร่วมทีมบาร์เซโลน่า คือ เอเมอสัน รอแยล ฟูลแบ็กจากอัตเลติโก มิเนโร่ เมื่อปี 2019 แต่ลงเล่นไปเพียง 3 นัด ตลอด 2 ปี ในถิ่นคัมป์ นู ส่วนวิตอร์ โรเก้ ที่จะย้ายมาค้าแข้งในปีหน้า เป็นนักเตะคนที่ 17 ที่มาจากลีกแดนกาแฟ และเป็นนักเตะเลือดแซมบ้าคนที่ 47 ในประวัติศาสตร์ของบาร์ซ่า
เพิ่งติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ไปเพียง 1 นัด
เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โรเก้ ได้โอกาสลงสนามกับทีมชาติบราซิลชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในเกมอุ่นเครื่อง พบกับทีมชาติโมร็อกโก ที่เพิ่งคว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ลงเล่นไป 25 นาที ทำให้เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้กับทีมซีเนียร์ของแซมบ้า ด้วยวัย 18 ปี 25 วัน นับตั้งแต่โรนัลโด้ เมื่อปี 1994
อดีตโค้ชดีกรีแชมป์เวิลด์ คัพ กล่าวชื่นชมเขา
หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ อดีตกุนซือทีมชาติบราซิล ชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ที่เคยคุมทีมอัตเลติโก้ พาราเนนเซ่ ในปี 2022 ออกมากล่าวชื่นชมโรเก้ว่า “เขาเป็นนักเตะที่มีสมาธิ และเชื่อฟังสิ่งที่ผมสอนเป็นอย่างมาก เขาพัฒนาฝีเท้าได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนเขาอายุแค่ 17 ปี ช่วยพาราเนนเซ่ เข้าชิงชนะเลิศโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส มาแล้ว”
สนิทกับ “เอ็นดริค” ว่าที่แข้งใหม่ราชันชุดขาว
เรื่องมิตรภาพนอกสนาม โรเก้มีความสนิทสนมกับ เอ็นดริค ว่าที่นักเตะใหม่ของเรอัล มาดริด ซึ่งจะย้ายมาร่วมทีมในปี 2024 เช่นกัน โดยเจ้าตัวได้พูดถึงเพื่อนคนนี้ว่า “ผมมักจะคุยกันบนโซเชียลมีเดีย เอ็นดริคเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม มีศักยภาพมากมาย ทั้งเราและเขามีพรสวรรค์ตั้งแต่อายุยังน้อย และหวังว่าจะมีอนาคตที่ดีด้วยกัน”
สื่อต่างประเทศ ยกเขาเป็นสุดยอดแข้งยุคใหม่
หลังจากที่โรเก้ บรรลุดีลย้ายไปบาร์เซโลน่าเรียบร้อยแล้ว บรรดาสื่อชั้นนำในต่างประเทศ ออกมาพูดถึงฝีเท้าของเขาที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างเช่น Mundo Deportivo ของสเปน กล่าวว่า “พรสวรรค์ของวิคเตอร์ จะครองอนาคตได้แน่นอน” ขณะที่ The Athletic กล่าวว่า “วิคเตอร์คือนักเตะที่ดีที่สุด หลังจากหมดยุคของโรนัลโด้”